Hifu

 

HIFU  คืออะไร ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง

        HIFU หรือ (High-Intensity Focused Ultrasound) คือ เทคโนโลยียกกระชับ ที่ใช้คลื่นโฟกัสอัลตราซาวน์ลงไปในชั้นผิว ออกฤทธิ์ในชั้น SMAS ชั้นเดียวกับที่ผ่าตัดดึงหน้า   

        Hifu สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เหมาะกับการนำมาใช้เพื่อลดเลือนริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และเพิ่มความกระชับ ลดแก้ม ลดเหนียง ยกกระชับผิว ปรับรูปหน้าเรียว และเก็บกรอบหน้าให้ได้รูปคมชัดขึ้น

        ผลลัพธ์ของ Hifu มีความแตกต่างไป โดยขึ้นอยู่กับคนไข้แต่ละคน ที่แอลวีเอสเธติค เราเลือกใช้เครื่อง HIFU ที่ได้มาตรฐานผ่านการรับรองอย. ทั้งไทยและต่างประเทศมีความปลอดภัยสูงและไม่ทำร้ายผิวหนังบริเวณชั้นนอก

 ทำ Hifu เจ็บไหม ?

        ยังมีข้อสงสัเกี่ยวกับการทําไฮฟูว่าเจ็บไหม หลายคนเคยเห็นจากโฆษณาบอกว่า การทำ Hifu จะเห็นผลทันทีและไม่เจ็บ เอาจริงนะ ไม่เป็นความจริงเลย

        ถ้าถามว่าการทำHifu เจ็บไหม บอกเลยเจ็บ(ทนได้) ขณะทำต้องมีความรู้สึกปวดๆ ตึงๆ บริเวณใต้ชั้นผิวแสดงถึงการยิงคลื่นเสียงเข้าถึงชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ (SMAS) เพื่อความยกกระชับ   อาการหลังทำจะบวมเล็กน้อยแต่จะยุบบวมเอง ถ้าทำแล้วไม่เจ็บเลย  เครื่องที่ทำอาจไม่ได้มาตรฐาน หรือพลังงานไม่ถึง

หลังทำ HIFU เห็นผลอย่างไร

          การทำงานของ Hifu จะทำงานลงถึงชั้นกล้ามเนื้อ โดยในขณะทำต้องจะมีความรู้สึกปวดๆ ตึงๆ  เสียวบริเวณสันกราม หรือโหนกแก้ม นั่นหมายถึงการการันตีว่าเครื่องของเราลงลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อในระดับลึกจริง และมั่นใจได้ว่าเห็นผลทันทีหลังทำ 20-30% และจะเห็นผลชัดเจนขึ้นเมื่อครบ 1 เดือน ผิวส่วนที่ทำ Hifu จะกระชับขึ้น มีความแน่นตึงขึ้น โดยเทคนิกของเราจะไม่ทำให้หน้าตอบจนดูมีอายุ แต่จะเป็นกระยกกระชับใบหน้าหรือผิวที่หย่อนคล้อย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ชั้นผิวส่วนลึกให้ผิวแน่นและยืดหยุ่นขึ้น

        - เห็นผลได้ชัดเจนหลังทำทันทีประมาณ 20 - 30% และจะเห็นผลชัดขึ้นตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป

        - เมื่อทำแล้วจะคงสภาพอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน – 12 เดือน (ขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละบุคคล หากต้องการ

          ให้ กระชับขึ้นอีก สามารถทำเพิ่มอีกได้ทุกๆ 3 เดือน)   

        - สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เนื่องจากไม่มีบาดแผลและไม่ต้องพักฟื้น 

 Hifu ทำไมราคาต่างกันมาก?

       คนไข้: คุณหมอคะทำไมเห็นโฆษณา Hifu หรือ Hifu บุฟเฟ่  3,999 ไม่จำกัดชอตด้วย

       คุณหมอ:  คิดยังกับโทรศัพท์ยี่ห้อแอปเปิ้ลกับ บางยี่ห้อที่ฟังก์ชั่นเหมือนกันแต่ถูกกว่าเยอะคะ   พอนึกภาพออกใช่ไหมคะ  ข้อเท็จจริงคือหัวยิง Hifu นั้นมีต้นทุนตามชอตที่ใช้ เมื่อใช้หมดต้องทิ้งเปลี่ยนใหม่  มันมีต้นทุนชัดเจนดังนั้นราคา Hifu ราคาถูกมาก ๆ ไม่มีอยู่จริง ที่มีหัวยิงที่คุณภาพจะไม่ดี แล้วถ้าเราต้องจ่ายถูกแต่ไม่ได้ผลคือแพงใช่ไหม

       การที่ราคาถูก นั่นหมายถึง คุณภาพเป็นไปตามราคา นี่จึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมหลายๆ คนไปทำ Hifu มาแล้วไม่เห็นผลหรือเกิดผลข้างเคียงหรืออยู่ได้ไม่นาน

 ทำไมควรทำ Hifu ที่แอลวี เอสเธติค?

        -  เลือกใช้เครื่อง HIFU ที่ได้มาตรฐานผ่านการรับรองอย. ทั้งไทยและต่างประเทศ

        -  มีหัวยิงหลากหลายหัว สามารถยิงได้ทุกบริเวณผิว ทั้งใบหน้า รอบดวงตา เพื่อให้ผลการักษาที่แม่นยำขึ้น

        -  ราคาสมเหตุสมผล

        -  สถานที่ได้มาตรฐาน ที่จอดรถสะดวกสบาย  พื้นที่มีความเป็นส่วนตัวสูง

        -  แพทย์ดูแลเองทุกเคส (*เนื่องจากบนใบหน้ามีเส้นประสาทที่ควรระวัง ไม่เช่นนั้นจะทำให้ใบหน้าบิดเบี้ยวได้)

        -  คลินิกไม่บังคับขายคอร์ส  ไม่ปิดยอด ลูกค้าสบายใจด้วยค่ะ


  ผลลัพธ์หลังจากทำ  HIFU

        -  แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย  หนังตาตก ยกคิ้ว

        -  ลดริ้วรอยหน้าผาก ริ้วรอยรอบดวงตา ร่องแก้ม

        -  กรอบหน้าชัดเจนขึ้น ช่วยให้หน้าเรียวขึ้น

        -  ลดแก้ม ลดเหนียง คางสองชั้น

        -  รูขุมขนกระชับ หน้าใสขึ้น 

*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับผู้ป่วยเฉพาะราย และระยะเวลาในการรักษา*

 

 ต้องดูแลตัวเองก่อนและหลังทำ Hifu อย่างไร?

          -   เตรียมผิวให้พร้อม หลีกเลี่ยงความร้อนก่อนเข้ารับการทำ ไฮฟู ( HIFU ) ควรเตรียมผิวให้พ้นจากการปะทะแสงแดดโดยตรง

        -   ควรงดเว้นการเลเซอร์บริเวณผิวที่ต้องการทำ ไฮฟู ( HIFU ) อย่างน้อย 3-5 วัน เนื่องจากผิวจะมีความร้อนสะสม ค่อนข้างเสี่ยงต่อการที่ผิวจะไหม้ได้ง่าย

        -   งดสูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

        -   งดรับประทานยากลุ่มแอสไพริน วิตามินต่าง ๆ อย่างน้อย 1 สัปดาห์ ก่อนการทำ ไฮฟู ( HIFU )

        -   รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ รวมทั้งดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อให้การสร้างและซ่อมแซมคอลลาเจน และเซลล์ใหม่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

        -   เตรียมสภาพร่างกายให้พร้อม ด้วยการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

ข้อควรปฏิบัติหลังทำ hifu หลังทำ hifu ห้ามทำอะไรบ้าง ?

        -   สามารถทาครีมบำรุงผิวหน้าได้ตามปกติ แต่แนะนำให้ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ เสริมจากเดิมเพื่อป้องกันแสงแดด

        -   หลีกเลี่ยงการออกแดดกลางแจ้งสัก 1-2 สัปดาห์ เพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูของคอลลาเจนใต้ผิว

        -   หากมีอาการเมื่อยหรือตึงผิวก็สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้

        -   ไม่ควรนวดหรือถูใบหน้าแรงๆ

        -   ไม่สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเป็นการทำลายการสร้างคอลลาเจนที่ชั้นใต้ผิว