ฉีดโบท็อกส์ลดริ้วรอย

           

การฉีดโบท็อกซ์รักษาริ้วรอย  คือ การสารที่สกัดจากแบคทีเรียสายพันธุ์เฉพาะ  ตัวสารอยู่ในรูปโปรตีนที่มีคุณสมบัติพิเศษคือ สามารถจับกับปลายเส้นประสาทที่มาควบคุมกล้ามเนื้อ แล้วไปยับยั้งการกระตุ้นกล้ามเนื้อที่เลี้ยงโดยเส้นประสาทบริเวณนั้น ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ได้รับโบหดตัวไม่ได้และอยู่ในสภาพคลายตัวในที่สุด ผลลัพธ์ที่ได้จะทำให้ใบหน้าริ้วรอยลดลง ใบหน้าดูเด็กสดใส เย้ายวนมีเสน่ห์มากขึ้น

ฉีดโบท็อกซ์ตรงไหนได้บ้าง

  • หน้าผาก : ช่วยลดรอยเหี่ยวย่น รอยย่นหว่างคิ้ว
  • หางตา : ลดรอยตีนกา ริ้วรอยใต้ตา
  • กราม / โหนกแก้มใหญ่
  • กรอบหน้า : ช่วยยกกระชับหน้าเรียว
  • ปีกจมูก : ลดปีกจมูกให้เล็กลง
  • มุมปาก
  • รักแร้ ลดการทำงานของต่อมเหงื่อ  
  • น่องขา ลดกระชับกล้ามเนื้อให้เล็กลง
  • ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ลดการทำงานของต่อมเหงื่อ ลดกลิ่น


 


       สงสัยใช่ไหมทำไมฉีด BOTOX ยี่ห้อเดียวกันแต่ละคลินิก ราคาทำไมไม่เท่ากัน ?

Botox หรือ Botulinum toxin ที่ใช้ในการฉีด ที่มีขายถูกต้อง ผ่านมาตรฐาน อ.ย.ไทย แล้วนั้น มีไม่กี่ยี่ห้อ โดยแต่ละยี่ห้อ ก็จะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ตามขนาดของโมเลกุล ความบริสุทธิ์รวมถึงประเทศที่ผลิตด้วย

       สิ่งที่ทำให้ราคามีความแตกต่างแม้ว่าจะฉีดยี่ห้อเดียวกัน ในปริมาณที่เท่ากัน

1. โบท็อกซ์ มีที่เป็นของแท้ กับของหิ้ว ของแท้ต้องผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน อ.ย.ไทย แล้ว แต่พวกของปลอม ของหิ้ว ของเลียนแบบก็เหมือนเสื้อผ้าหลุดสเปคจะไม่ได้มาตรฐานของอย.ไทย จุดนี้ทำให้ต้นทุน ของคลินิก ที่เลือกใช้ Botox ของแท้ จากบริษัทนำเข้าถูกต้องตามกฏหมาย ผ่าน อ.ย.ไทย จะแบกรับต้นทุนสินค้าที่สูงกว่า คลินิกที่เลือกใช้ตัวยาแอบนำเข้า หรือแอบหิ้วเข้ามาจากต่างประเทศ ไม่ได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบ ไม่ได้ผ่านการขนส่งแบบถูกวิธี หรือ ที่แย่ไปกว่านั้น เลือกใช้ตัวยา ที่เป็นของปลอม ของเลียนแบบ นี่ก็คือสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ต้นทุนของโบท็อกซ์ได้มาถูกมากๆ เลยสามารถตั้งราคา ลดเยอะๆ ทำให้ต่างกับอีกคลินิก ที่ใช้ของแท้นั่นเอง.วิธีตั้งข้อสังเกต ว่าเป็นโบทอกปลอม หรือไม่ก็ของหิ้ว มักแข่งด้วยราคาที่ถูกผิดปกติ ถูกจนราคาต่ำกว่าต้นทุนของโบทอกแท้ที่นำเข้าได้มาตรฐาน สิ่งที่คนไข้ต้องรับคือความเสี่ยง การที่เราฉีดครั้งหนึ่งไม่เป็นไรไม่ได้แปลว่าครี้งต่อไปจะดีนะจ้ะ

2. หมอจริงหรือหมอปลอม หรือฉีดกับพยาบาล ซึ่งตรงนี้ ต้นทุนในการจ้างแพทย์อยู่ประจำคลินิก ก็เป็นต้นทุนที่คลินิก จะต้องแบกรับสูงมาก หลายๆ ที่เลือกที่จะแอบใช้พนักงานหรือพยาบาล หรือเจ้าหน้าที่ ผู้ช่วยแพทย์ ที่ผ่านการฝึก หรือลองทำจนทำเป็นฉีดแทนหมอ จุดนี้ ถือว่าค่อนข้างอันตรายเลยทีเดียว หากฉีดกับหมอกระเป๋า หรือคนที่ไม่ใช่แพทย์ มีโอกาสที่จะเสี่ยงปากเบี้ยว หน้าเบี้ยว ฉีดเข้าเส้นเลือด เสียโฉมได้

3. แอบผสมเจือจางน้ำเกลือเยอะๆ จุดนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิค ของคลินิกที่เอาเปรียบลูกค้า โดยจะไม่ให้ลูกค้าเห็นกระบวนการผสมตัวยา ดูดออกจากขวด แล้วเนียนดูดตัวยามาแค่ 10 ยูนิต ที่เหลือคือน้ำเกลือ แต่บอกลูกค้าว่า 50 ยูนิต ซึ่งก็จะทำให้สามารถกด และลดราคาขายได้ถูกได้นั่นเอง แต่รู้หรือไม่ หากเราฉีดแบบนี้ สิ่งแรกเลย ผลลัพธ์ที่ได้ ก็จะไม่ได้ผล 100% และเสี่ยงต่อการดื้อยาในอนาคต เพราะเมื่อไม่ค่อยลง ไม่ค่อยเห็นผล ก็ต้องหมั่นเข้ามาฉีดอยู่บ่อยๆ นั่นเอง

4. ความสามารถ ประสบการณ์ และเทคนิคในการฉีดของแพทย์แต่ละท่าน การฉีดโบทอกเป็นศิลปะอย่างนึง ที่นำมาใช้ในการแก้ไขปัญหารูปหน้าของคนไข้แต่ละท่าน ปัญหาของคนนึง อาจเหมือนหรือต่างกับอีกคนนึง จุดนี้ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์เป็นหลัก
ทราบถึงสาเหตุกันแล้ว จะเลือกคลินิกทำสวยหน้าทั้งทีเลือกที่มีมาตรฐานดีกว่าค่ะ หน้าเรามีหน้าเดียว ผิดพลาดแก้ไขได้แต่ไม่ได้การันตีจะกลับมาเหมือนเดิมค่ะ

         ที่แอลวีคลินิก ให้สำคัญลำดับแรกคือคุณภาพยาและเครื่อง เราใช้ตัวยาและเครื่องที่ได้รับมาตรฐานทั้งในต่างประเทศและผ่านอย.บ้านเราเท่านั้น ที่สำคัญทุกเคสต้องทำกับแพทย์เพราะคลินิกไม่ปล่อยให้ลูกค้าต้องมารับความเสี่ยงกับการฉีดโบท็อกซ์แน่นอน ราคาที่คลินิกจึงอาจดูสูงกว่าคลินิกปลอม ๆ แต่ราคาที่เทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ผลและลดความเสี่ยงโดยเฉพาะกับหน้าเราแล้ว คุ้มค่าแน่นอนค่ะ

ผลข้างเคียงของโบท็อกซ์ที่ควรรู้
  •  บริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์เจ็บ มีรอยช้ำ และการเปลี่ยนแปลงของสีผิวบริเวณที่ฉีดเป็นผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดของ Botox Cosmetic ปฏิกิริยาเหล่านี้มักเกิดขึ้นหากหลอดเลือดได้รับบาดเจ็บชั่วคราวจากการฉีด ปฏิกิริยาบริเวณที่ฉีดมักจะปรากฏขึ้นหลังการรักษาไม่นาน และควรหายไปเอง
  • อาการปวดหัวเป็นอีกหนึ่งผลข้างเคียงของเครื่องสำอางโบท็อกซ์ที่พบได้บ่อย อาจเป็นเพราะยาอาจทำให้กล้ามเนื้อกระตุกก่อนที่จะเป็นอัมพาต แต่ยังไม่ชัดเจนว่าอะไรเป็นสาเหตุ ข่าวดีก็คืออาการปวดหัวมักไม่รุนแรงและหายเป็นปกติภายในสองสามวัน
  • ผิวแห้งและเป็นขุยอาจเกิดขึ้นได้กับบางคนในบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ แม้ว่าสาเหตุจะไม่ชัดเจนนัก แต่ดูเหมือนว่าจะเกิดขึ้นเนื่องจากโบท็อกซ์ลดความสามารถในการขับเหงื่อของร่างกาย ซึ่งจะทำให้ผิวแห้งและลอกเป็นขุยขึ้น และรู้สึกตึงขึ้น
  • อักเสบติดเชื้อหลังฉีด กรณีนี้มักเกิดจากคนไข้เลือกฉีดโบท็อริ้วรอยกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานครับ หรือหมอกระเป๋า ที่ใช้อุปกรณ์ที่ ไม่สะอาดมากพอ ไม่มีระบบการดูแลความสะอาดปลอดเชื้อ

 

คำแนะนำการดูแลหลังฉีดโบท็อกซ์

  •  ไม่นวด กด บีบ คลึง บริเวณที่เพิ่งทำการฉีดโบลิฟท์มา เป็นเวลา 6-8 ชั่วโมง
  •  ห้ามนอนราบ หรือตะแคง 3 - 4 ชั่วโมงหลังฉีด เนื่องจากตัวยาอาจกระจายตัวออกนอกตำแหน่งที่ฉีด ทำให้ไม่ได้ ประสิทธิภาพ
  •  งดการทำเลเซอร์หลังฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย 2 สัปดาห์
  •  งดการดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 24-48 ชั่วโมงหลังทำ 
  •  ภายใน 2 สัปดาห์แรก ควรงดการเข้าอบไอน้ำ อบซาวน่า เพราะความร้อนเฉพาะจุดเป็นเวลานานอาจส่งผลต่อโบท็อกซ์ลดริ้วรอยที่ฉีดได้

            * การฉีดโบท็อกเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย  แม้การฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยจะได้รับความนิยม แต่การเลือกเข้ารับบริการกับคลีนิคที่ได้มาตรฐานและมีแพทย์เฉพาะทางคือสิ่งสำคัญ เพราะแพทย์จะมีความรู้พื้นฐานทางกายวิภาคของกล้ามเนื้อแต่ละมัด ตลอดจนเทคนิคการรักษาที่ถูกต้อง เพื่อให้ผลการรักษาเกิดประโยชน์สูงสุดความปลอดภัยต่อ และได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ  อย่าเอาใบหน้าไปเสี่ยงกับของถูกและไม่ได้มาตรฐานค่ะ